ชาวปกาเกอะญอ เป็นกลุ่มชาติพันธ์ที่มีวิถีชีวิตที่อิงกับธรรมชาติอาศัยอยู่ในป่า-ดอย ในบริเวณชายแดนไทย-พม่ามาเป็นร้อยปี จึงมักมีความเชื่อและประเพณีที่อิงกับธรรมชาติเช่นกัน แนวคิดและวิถีชีวิตของพวกเชื่อจะเชื่อในการอนุรักษ์ป่าไม้-ธรรมชาติ โดยในชุมชนทั้งสามแห่ง (ปงผาง แม่งสะแงะ และผาด่าน)ที่อาศัยอยู่บนดอยอย่างสันโดษมาโดยตลอด ได้เปิดพื้นที่ เพื่อรับนักท่องเที่ยวเป็นปีที่สองภายหลังจากความสำเร็จของ ปงผาง escape ss 1 เราจะพาไปดู จุดชมวิวพาโนรามาชมธรรมชาติที่งดงามที่คนส่วนใหญ่ยังไม่เคยได้พบ

ตีนดอยนก บ้านปงผาง

อีกหนึ่งจุดชมวิวที่บ้านปงผางที่คุณจะได้สัมผัสได้ยามเช้าของวันที่ 2 คือบริเวณตีนดอยนก ซึ่งเดินเท้าจากชุมชนเพียง 300 เมตรเท่านั้นใช้เวลาขึ้น-ลง 30 นาทีโดยประมาณ คุณก็จะพบกับจุดชมวิวที่ตีนดอยนกพร้อมสูดอากาศที่เย็นฉ่ำสดชื่นในเวลา 08.30 น. ในบางฤดูกาลชาวบ้านในชุมชนจะปลูกต้นข้าวบาร์เลย์ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดฮิตของปงผางให้บรรยากาศแบบเกาหลีสุดๆ

ดอย “เลอซาเฮ”

เป็นอีกหนึ่งยอดดอยที่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก
คำว่า “เลอซาเฮ” ในตำนาน ของชาวปกาเกอะญอเล่าขาน กันว่า เป็นสองคู่รักที่ทะเลาะกัน จึงหันหลังชนกัน จึงนำมาเปรียบเปรยกับภูเขาสองลูกที่หันหลังชนกัน ดอยแห่งนี้หากขึ้นไปถึงยอด เราจะสามารถมองเห็น “ดอยสุเทพ” เชียงใหม่ได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเป็นภาพที่งดงามมากในยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เส้นทางขึ้นดอยอยู่ที่ระยะประมาณ 50 เมตร เวลาขึ้น-ลง 1-2 ชั่วโมง ซึ่งมีเส้นทางที่ค่อนข้างลาดชันมาก แนะนำว่าเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในการปีนเขา เดินเทรลเท่านั้นเนื่องจากมีเส้นทางที่ไม่ปลอดภัยสำหรับมือใหม่/ขาดอุปกรณ์ในการยึดเกาะ

จุดชมวิว Takiri แห่งผาด่าน

ชมวิวยอดดอยเลอซาเฮ จุดนี้จะเป็นลางกางเต็นท์ในคืนที่สองของโปรแกรมทัวร์ ปงผาง escape ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ของชาวปกาเกอะญอที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านผาด่าน ได้เรียนรู้ในการเป็นผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว จากการที่ตนเป็นคนชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย จึงเป็นไอเดียในการลงทุนก่อสร้างจุดชมวิวแห่งนี้เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวให้ได้มาเยี่ยมเยียน ในช่วงเย็นวันที่สองของทริป ปงผาง escape นักท่องเที่ยวจะได้รับประทานหมูกระทะพร้อมชมดวงอาทิตย์ตกหลังยอดดอยบอกเลยว่ามูดดีมากๆสุดฟิน